เครื่องบาล๊านซ์ทูล HAIMER Tool Dynamic Balancing Tool

เทคโนโลยีการปรับสมดุลโมดูลาร์ – เครื่องมือไดนามิก

ความเร็ว Spindle ของเครื่องจักรสมัยใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถตัดชิ้นงานได้มากขึ้น และสามารถผลิตชิ้นงานให้ได้กำไรมากขึ้น ความเร็วที่เพิ่มขึ้นย่อมหมายถึงเครื่องมือและตัวจับที่ใช้งานก็ต้องดีขึ้น เพราะว่าความเร็วของ Spindle จะทำให้เห็นผลกระทบจากการไม่สมดุลอย่างชัดเจนกว่าเดิม ผลที่ตามมาก็คือ เกิดการสั่น ผิวงานไม่ดี และอายุชิ้นงานสั้น

มีเพียงแต่การทำให้เครื่องมือและตัวจับมีความสมดุลอย่างดีเท่านั้นที่จะทำให้เครื่องจักร มีความสามารถอย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านความเร็ว ปริมาณการตัด และผิวงานที่เสร็จสิ้น เพราะการทำให้เกิดความสมดุลจะทำให้เกิดการสั่นน้อยลง และยังช่วยลดการสึกหรอของ Spindle และเครื่องมือ อีกทั้ง ยังช่วยลดช่วงเวลา Downtime และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการทำงานอีกด้วย

HAIMER ขอเสนอ Tool Dynamic Balancing Tool Series ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำให้ตัวจับเครื่องมือสมดุล รวมทั้ง Grinding Wheels และ Rotors ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสูงถึง 800 มม. โดยมีเครื่องจักรเริ่มจากรุ่น Table and Complementary Machine TD 1002 ไปจนถึงเครื่องจักรรุ่น Automatic Balancing Machine TD 2010 Automatic จึงทำให้ HAIMER สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการเพื่อให้ได้เครื่องจักร Balancing Machine ที่เหมาะสมกับคุณ

10 เหตุผลหลักที่ควรใช้ HAIMER TOOL DYNAMIC

HAIMER Tool Dynamic มีคุณภาพที่สามารถทำให้มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว

  1. อายุชิ้นงานยาวนานกว่า:โดยเฉลี่ยแล้ว Balanced Tools (คือ Solid Round Tools และ Inserts) จะใช้งานได้นานกว่าถึง 20% เมื่อระบบอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในสภาวะสมดุล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณของความไม่สมดุล อายุของชิ้นงานอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ได้ด้วย
  2. ความเร็วมากขึ้น:เสียงที่มาจากการสั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้ อุปกรณ์ที่สมดุลจะทำให้ความเร็ว Spindle สูงขึ้น 10-15% โดยไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือทำให้อายุชิ้นงานสั้นลง
  3. ประสิทธิภาพเครื่องมือที่ทำซ้ำได้ต่อเนื่อง:การลดการสั่นสะเทือนทำให้ลดปัญหาได้มากมาย เช่น การเลื่อนไถล หรือเครื่องมือแตกหัก จึงทำให้เครื่องมือมีประสิทธิภาพเสถียร และทำให้สามารถทำงานแบบ Lights out Machining ได้ (คือ ปิดไฟ และไม่ต้องคอยดู)
  4. อายุของSpindle ยาวนานขึ้น: ความไม่สมดุลในชุดเครื่องมือ ทำให้เกิดแรงที่เคลื่อนออกจากศูนย์กลาง ซึ่งทำลาย Spindle  Bearing ได้ ความเสียหายดังกล่าวจะทำให้อายุของ Spindle สั้นลง และทำให้เกิดช่วงเวลา Downtime ที่ไม่คาดคิดและเสียค่าใช้จ่าย
  5. พื้นผิวตอนท้ายงานที่ดีขึ้น:ความไม่สมดุลทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อชิ้นงานในตอนท้าย ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนไถล หรือผิวงานที่แย่ การทำให้ชุดอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมดสมดุล จะทำให้เกิดผิวงานตอนท้ายที่ดีที่สุด
  1. ความแม่นยำเพิ่มขึ้น:เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น ความไม่สมดุลทำให้เกิด Runout (ความไม่แม่นยำ) ในระหว่างที่หมุน เมื่อไม่สามารถวัดได้แบบนิ่ง (สถิต) เมื่อไม่สมดุล ผลที่ได้คือ ความเร็วที่ช้าลง และการผลิตชิ้นงานที่น้อยลง
  2. เปลี่ยนเครื่องมือน้อยลง:เมื่ออายุชิ้นงานเพิ่มขึ้น 20% ถึง 100% ก็หมายความว่า เวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนเครื่องมือก็ลดลง
  3. กระบวนการแม่นยำ:การสร้างฐานคอนกรีตที่แน่นหนา ตัว Sensor ที่ตรวจหาแรงที่ออกจากศูนย์กลางเพื่อการวัด Spindle ที่ได้รับสิทธิบัตร ซึ่งจับยึดเครื่องมือที่คล้ายกับเครื่องมือกล และกระบวนการ Calibration เครื่องมือที่ง่ายและเชื่อถือได้
  4. ใช้งานง่าย:ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย และตัวเลือก Compensation ที่ชัดเจน (เอาน้ำหนักออกหรือเปลี่ยนตำแหน่งน้ำหนัก) ทำให้กระบวนการ balancing เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายสำหรับผู้ใช้งานทุกคน
  5. ความสำเร็จแบบอุตสาหกรรม4.0:  อุตสาหกรรม 4.0 คือ การใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติในระหว่างดำเนินการ ซึ่งช่วยทำให้กระบวนการทำงานอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด หากไม่มีความสมดุล ระบบการทำงานเครื่องจักรแบบเหมาะสมจะดำเนินการปรับลดความเร็วลง จนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข และจะทำให้ความสามารถในการผลิตลดลง

สอบถามเพิ่มเติมที่

บริษัท เพรสซิชั่น ทูลลิ่ง เซอร์วิส จำกัด
Tel. 02-3704900 auto 10 lines
Email : info@ptsc.co.th